เทศกาลตรุษจีน
เทศกาลตรุษจีน
เช่นเดียวกับวันคริสต์มาสที่มีความสำคัญต่อประเทศตะวันตก เทศกาลตรุษจีนก็ถือเป็นเทศกาลที่สำคัญที่สุดของชาวจีน ถึงแม้ความหมายของตรุษจีนและรูปแบบการฉลองเทศกาลตรุษจีนเกิดการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ ตามยุคสมัย แต่สำหรับชาวจีนแล้ว ตรุษจีนยังคงมีฐานะสำคัญที่สุดที่เทศกาลอื่นๆ มิอาจทดแทนหรือเทียบเท่าได้
เล่ากันว่า เทศกาลตรุษจีนมีประวัติยาวนานกว่าสี่พันปีแล้ว เดิมทีไม่ได้เรียกว่าตรุษจีน และก็ไม่ได้กำหนดเวลาที่แน่นอนด้วย เมื่อ 2100 ปีก่อนคริสต์กาล คนในสมัยนั้นถือการโคจรรอบหนึ่งของดาวจูปีเตอร์เป็นหนึ่ง"
ซุ่ย" จึงเรียกตรุษจีนว่า"
ซุ่ย" เมื่อ 1000 กว่าปีก่อนคริสต์กาล เรียกตรุษจีนว่า"เหนียน"ซึ่งมีความหมายว่าการเก็บเกี่ยวได้ผลอุดมสมบูรณ์
เกี่ยวกับความเป็นมาของเทศกาลตรุษจีน ยังมีนิทานเรื่องหนึ่งเล่าว่า ครั้งก่อนนานมาแล้ว มีปีศาจตัวหนึ่งชื่อ"เหนียน" ซึ่งจะปรากฏตัวทุกๆ 365 วันเพื่อมากินมนุษย์ ชาวบ้านจึงเรียกวันนั้นว่า"เหนียนกวน"หากสามารถผ่านไปได้ด้วยความปลอดภัย ตลอดเวลา 365 วันต่อไปก็จะมีความราบรื่นและสันติสุข จึงเรียกว่า"กั้วเหนียน" "กั้ว"หมายความว่าผ่านไป ต่อมา ชาวบ้านพบว่า"เหนียน"กลัวสีแดงและเสียงประทัด เมื่อถึงวัน"กั้วเหนียน"ชาวบ้านก็จะติดกลอนคู่สีแดงไว้สองข้างประตูบ้าน และจุดประทัดส่งเสียงดังตลอดคืน ทำให้"เหนียน"ไม่กล้าออกมาก่อกวนชาวบ้านอีก ตอนหลังการแขวนโคมไฟสีแดง การติดกลอนคู่และการจุดประทัดก็ค่อยๆ กลายเป็นประเพณีฉลองปีใหม่ และสืบทอดจนถึงทุกวันนี้
ตามประเพณีพื้นบ้าน เทศกาลตรุษจีนจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 23 เดือน 12 ตามปฏิทินจันทรคติของจีนไปจนถึงวันขึ้น 15 ค่ำเดือนอ้ายตามปฏิทินจันทรคติของจีน ในช่วงนี้ คืนวันที่ 30 เดือน 12 ซึ่งเป็นวันส่งท้ายปีเก่า และวันที่ 1 เดือนอ้ายหรือวันชิวอิก จะเป็นวาระสำคัญที่สุดในช่วงเทศกาลตรุษจีนซึ่งกินเวลาทั้งหมดประมาณ 3 อาทิตย์
เพื่อเตรียมต้อนรับเทศกาลตรุษจีน ประชาชนในเมืองหรือชนบทต่างตระเตรียมกันตั้งแต่เนิ่น ๆ โดยเฉพาะในชนบท พอย่างเข้าเดือนธันวาคมก็เริ่มเตรียมที่จะต้อนรับตรุษจีนแล้ว เช่น ทำความสะอาดบ้าน ซักเสื้อผ้าและผ้าห่ม ซึ่งถือเป็นการขับไล่สิ่งที่สกปรกออกจากบ้าน เพื่อให้บ้านมีโฉมหน้าใหม่ นอกจากนี้ ยังจะซื้อของกินของใช้มากมาย เช่น ขนม หมูเห็ดเป็ดไก่ และผลไม้นานาชนิด เพื่อเตรียมไว้กินหรือต้อนรับแขกในช่วงเทศกาลตรุษจีน ในเมืองใหญ่ ก็เตรียมตั้งแต่เนิ่น ๆ เช่นกัน เช่น หน่วยงานวัฒนธรรมและคณะนาฏศิลป์จะเตรียมรายการมากมายสำหรับแสดงในช่วงตรุษจีน สถานีโทรทัศน์ต่างๆจะเตรียมจัดงานบันเทิง สวนสาธารณะจะเตรียมจัดงานวัดตามประเพณีฉลองตรุษจีนที่สืบทอดกันมาแต่สมัยโบราณ เพื่อให้ประชาชนได้รับความบันเทิงและความสนุกสนานมากกว่าวันธรรมดา ส่วนร้านค้าและห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ จะจัดเตรียมสินค้าให้เพียงพอเพื่อตอบสนองการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลตรุษจีน
ในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศจีน มีประเพณีฉลองตรุษจีนที่แตกต่างกัน แต่มีประเพณีอยู่อย่างหนึ่งไม่ว่าภาคใต้หรือภาคเหนือล้วนปฏิบัติเหมือนกัน นั่นก็คือ การรับประทานอาหารด้วยกันทั้งครอบครัวในคืนส่งท้ายปีเก่า ที่ภาคใต้ อาหารมื้อนี้มักจะมีกับข้าวกว่าสิบอย่าง ต้องมี
เต้าหู้และ
ปลา เพราะว่าการออกเสียง
"เต้าหู้"และ"ปลา"พ้องเสียงกับคำว่า"ฟู่อยวี้"ซึ่งมีความหมายว่ามั่งคั่งร่ำรวย ส่วนภาคเหนือ ในคืนส่งท้ายปีเก่า ทุกคนในครอบครัวจะช่วยกันห่อเกี๊ยว และรับประทานด้วยกัน
ในคืนส่งท้ายปีเก่ายังมีประเพณีอีกอย่างหนึ่งเรียกว่า"
โส่วซุ่ย"คือ อยู่โต้รุ่งเพื่อต้อนรับปีใหม่ พอถึงเที่ยงคืน ผู้คนจะพากันจุดประทัดต้อนรับปีใหม่ ประเพณีการจุดประทัดในอดีตก็เพื่อขับไล่ภูตผีปีศาจ แต่เนื่องจากการจุดประทัดทำให้เกิดมลพิษและไม่ปลอดภัย ในเขตตัวเมืองของเมืองใหญ่เช่น ปักกิ่งจึงห้ามจุดประทัด นอกจากนี้พอถึงวันชิวอิก ไม่ว่าเด็กเล็กหรือผู้เฒ่าผู้แก่จะใส่เสื้อผ้าใหม่ เวลาไปเยี่ยมญาติและเพื่อน ๆ มักจะทักทายด้วยคำว่า"สวัสดีปีใหม่"หรือ"สวัสดีตรุษจีน"
กิจกรรมในช่วงเทศกาลตรุษจีนมีหลายอย่าง เช่น การแสดงละครพื้นบ้าน การเชิดสิงโต การเต้นระบำพื้นบ้าน การรำไม้ต่อขา ซึ่งการแสดงเหล่านี้ส่วนใหญ่จะจัดในงานวัด ทุกหนทุกแห่งเต็มไปด้วยบรรยากาศคึกคักสนุกสนาน นอกจากนี้ สถานีโทรทัศน์ต่าง ๆ จะออกรายการพิเศษหลากหลายรูปแบบ ไม่ต้องออกจากบ้านก็สามารถสัมผัสกับกลิ่นอายของเทศกาลได้ด้วย
พูดถึงรายการโทรทัศน์ที่ออกในคืนส่งท้ายปีเก่านั้น ต้องพูดถึงรายการฉลองตรุษจีน"ชุนหวั่น"ซึ่งก็คือรายการฉลองตรุษจีนที่สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีจัดทำ ถ้าใครสามารถขึ้นไปแสดงบนเวทีนี้ ก็จะกลายเป็นคนดังภายในชั่วค่ำคืน เพราะชาวจีนเกือบทั่วประเทศจะชมรายการนี้ในคืนส่งท้ายปีเก่า จึงถือเป็นรายการโทรทัศน์ที่มีผู้ชมมากที่สุดในโลก เป็นเวทีสำคัญอย่างนี้ การคัดรายการและคนแสดงจึงเข้มข้นมาก ต้องผ่านการคัดเลือกรอบแล้วรอบอีก คนแสดงต้องมีฝีมือสุดยอด
การติดคำกลอนคู่และภาพมงคล การแขวนโคมไฟ ก็เป็นประเพณีฉลองตรุษจีนที่สำคัญ ในช่วงเทศกาล ตลาดจะจำหน่ายเครื่องตกแต่งบ้านและภาพมงคลสีสันหลากหลาย เป็นรูปดอกไม้บ้าง สัตว์มงคลบ้างและรูปเซียนบ้าง ซึ่งล้วนมีความหมายดีๆ อวยพรให้มีชีวิตผาสุก
เมื่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้นเรื่อย ๆ รูปแบบและวิธีฉลองเทศกาลตรุษจีนก็พลอยเปลี่ยนแปลงไปด้วย การไปท่องเที่ยวนอกบ้านนอกเมืองกลายเป็นกระแสนิยมของชาวจีนยุคใหม่ในช่วงเทศกาลตรุษจีน สำหรับคนในภาคเหนือจะนิยมไปเที่ยวไหหลำ ฮ่องกง มาเก๊าหรือประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่นประเทศไทย ซึ่งตอนนี้ภูเก็ตกำลังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวจีน และมาเลเซีย สิงคโปร์ ไกลหน่อยก็จะไปมัลดีฟส์ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เพื่อหนีหนาวไปพึ่งร้อน
(ขอขอบคุณ ที่มาของแหล่งข้อมูล : http://thai.cri.cn)